ชีวะประวัติของอิหม่าม อบูฮะนีฟะฮฺ (อีหม่าม ฮานาฟี)

ชีวะประวัติของอิหม่าม อบูฮะนีฟะฮฺ (อีหม่าม ฮานาฟี)

ชีวะประวัติของอิหม่าม อบูฮะนีฟะฮฺ (อีหม่าม ฮานาฟี)

…อบูฮะนีฟะฮฺมีนามเต็มว่า อันนุอฺมาน อิบนฺ ษาบิต อิบนฺ อัลมัรซะบาน ซึ่งตระกูลของท่านมีเชื้อสายมาจากชาวเปอร์เซีย ตามพจนานุกรมภาษาอาหรับคำว่า อัล มัรซะบาน ไม่ใช่ภาษาอาหรับ แต่เป็นภาษาเปอร์เซีย ซึ่งมีความหมายว่า ผู้นำ

….อบูฮะนีฟะฮฺเกิดที่นคร กูฟะฮ์ ประเทศ อิรัก เมื่อปี ฮิจเราะฮ์ศักราช ที่ 80 ตรงกับคิริสศักราชที่ 699 นักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่าท่านเกิดที่เมืองอัมบาร แต่ส่วนใหญ่กล่าวว่าท่าน เกิดที่นคร กูฟะฮฺ ส่วนบิดาของท่านนั้นมีนามว่า ษาบิต อิบนุ ซุตอ

การประกอบอาชีพ

…ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าบิดาของท่านอบูฮะนีฟะฮฺเป็นพ่อค้า เนื่องจากบิดาของท่านประกอบอาชีพค้าขาย อาชีพนี้จึงตกทอดมาถึงลูกหลาน ท่านอบูฮะนีฟะฮฺได้สานต่ออาชีพนี้จากบิดาของท่านเอง โดยบิดาของท่านมีร้านค้าขายผ้าเป็นของตนเองตั้งอยู่ที่เมืองกูฟะฮ์ ท่านเป็นพ่อค้าที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา ท่านประกอบอาชีพอย่างซื่อสัตย์ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า หากสินค้าที่ท่านจะขายมีตำหนิ ท่านก็บอกให้ลูกค้าท่านทราบทุกครั้ง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อบูฮะนีฟะฮฺได้รับการยกย่องและเชื่อถือจากบรรดาประชาชนทั่วไปและบรรดานักธุรกิจต่าง ๆในยุคของท่านเป็นอย่างมาก

การศึกษา

………อบูฮะนีฟะฮฺเป็นผู้ที่เฉลียวฉลาด มีความสามารถสูงที่จะศึกษาเกี่ยวกับความรู้ในด้านศาสนา ท่านได้มุ่งมั่นในการศึกษาตามความปรารถนาของท่าน แต่ในช่วงแรกๆ ท่านได้ทุ่มเทเวลาในการค้าขายอย่างเดียวโดยไม่ได้มุ่งมั่นอย่างเต็มที่กับการศึกษา ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ท่านอบูฮะนีฟะฮฺได้หันหน้ามาศึกษาวิชาเกี่ยวกับศาสนา ท่านได้ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น นะฮู(หลักภาษาอาหรับ) นิติศาสตร์อิสลาม ที่รู้จักกันทั่วไปว่าวิชาฟิกฮฺ

………ในการแสดงความคิดเห็นท่านอบูฮะนีฟะฮฺจะใช้เหตุผลเป็นหลัก ท่านได้ศึกษาวิชาฟิกฮฺจนท่านมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในด้านนี้มาก ท่านชอบศึกษาค้นคว้าและแสวงหาวิชาความรู้ ท่านมักจะแสดงทัศนะของท่านเองประกอบการศึกษา ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเป็นที่ยอมรับของสังคมและเป็นที่เลื่องลือในคุณวุฒิด้านนี้จนถึงทุกวันนี้

ครูบาอาจารย์

………อบูฮะนีฟะฮฺ มีฐานะเป็นตาบีอีนคนหนึ่งที่มีโอกาสร่วมสมัยกับเศาะหาบะฮฺบางคน เมื่อท่านเกิดมามีเศาะฮาบะฮฺ ที่ยังมีชีวิตอยู่ 4 ท่าน ตามที่นักประวัติศาสตร์ได้บึกทึกไว้ คือ อนัส อิบนฺ มาลิก อับดุลลอฮ อิบนฺ อบีเอาฟ์ ไซดฺ อิบนฺ สะอัด แต่ท่านอะบูฮะนีฟะฮฺ มิได้มีโอกาสศึกษากับเศาะฮาบะฮฺทั้ง 4 โดยตรงเนื่องจากเศาะฮาบะฮฺทั้งสีได้เสียชีวิตตั้งแต่อบูฮะนีฟะฮฺยังเยาว์ ถึงแม้อบูฮะนีฟะฮไม่ได้ศึกษาโดยตรงจากบรรดาเศาะฮาบะฮฺเหล่านั้นแต่ได้ศึกษามาจากอาจารย์ที่ศึกษามาจากเศาะฮาบะฮทั้ง 4 ดังที่อบูฮะนีฟะฮฺได้กล่าวยื่นยันด้วยตนเอง กล่าวคือ ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า ท่านอบูฮะนีฟะฮฺได้เข้าเฝ้าญะอฟัรอัลมันซูรและอิซา อิบนฺ มูซาได้เข้าเฝ้าอยู่ที่นั้นด้วย และท่าน ได้ทูลคอลีฟะฮฺว่า อบูฮะนีฟะฮฺท่านนี้เป็นผู้ทรงความรู้ยิ่งในโลกปัจจุบัน คอลีฟะฮฺก็ได้ถามว่า โอ้นุอฺมาน ท่านได้รับความรู้มาจากที่ใด ? ท่านอบูฮะนีฟะฮฺทูลว่า ? จากพรรคพวกของอุมัรซึ่งได้รับความรู้จาก อุมัร เเละ พรรคพวกของอะลีย์ที่ได้รับความรู้จากพรรกพวกของ อะลี และจากพรรคพวกของอับดุลลอฮฺ อิบนฺ อับบาส ที่ได้รับความรู้จาก อับดุลลอฮฺ อิบนุอับบาส คอลีฟะฮฺอัลมันซูร จึงกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า ? ท่านได้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้แก่ตัวท่านเองแล้ว ?

..นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ท่านอบูฮะนีฟะฮฺยังมีครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน เช่น ฮัมมาด อิบนฺ อบีสุไลมาน , ไซดฺ อิบนฺ อะลีย์ ซัยนุลอาบีดีน , ญะอฟัร อัศศอดิก และอื่นๆ

…อบูฮะนีฟะฮฺได้ศึกษากฎหมายอิสลามและอัลหะดีษจาก ฮัมมาด อิบนฺ อบีสุไลมาน ท่านได้ใช้เวลาในการศึกษากับอาจารย์ท่านผู้นี้นานกว่าครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆคือท่าน ศึกษาอยู่ตั้งแต่ท่านมีอายุ 22 ปี จนถึงท่านมีอายุ 40 ปี และท่านจึงได้ทำการถ่ายทอดวิชาความรู้ที่ท่านได้รับมาด้วยวิธีการสอนอยู่ในมัสยิดแห่งหนึ่งในนครกูฟะฮฺเป็นประจำ

สานุศิษย์

………อิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีความสามารถในวิชาการแขนงต่างๆ ดังนั้นอบูฮะนีฟะฮฺจึงมีสานุศิษย์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในบรรดาวงการวิชาการหลายท่านเช่น

1. อิบรอฮีม อิบนฺ อิบรอฮีม อัลอันซอรี อัลกูฟี

2. อบูอับดุลลอฮฺ มุฮัมมัด อิบนฺ อัลฮะซัน อัซชัยบานีย์

3.  ซัฟร์ อิบนฺ อัลฮะซีล

4.  ฮะซัน อิบนฺซัยยาด อัลลุลุอัย อัลกูฟีย์

การทรมานท่านอิหม่าม

………อิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺดำรงชีวิตอยู่ใน 2 ยุค สมัยของราชวงค์อัลอุมะวีย์ และสมัยของ ราชวงค์อัลอับบาซีย์ เมื่อยะซีด อิบนฺ อุมัรในสมัยของราชวงค์อัลอุมะวีย์ขึ้นปกครองอิรัก ท่านได้เสนอให้อบูฮะนีฟะฮฺทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาแห่งนครกูฟะฮฺ แต่ท่านอบูฮะนีฟะฮฺปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอดังกล่าว อันเนื่องมาจากท่านไม่พอใจต่อการปกครองของราชวงค์นี้ ผลการปฏิเสธดังกล่าวทำให้ยะซีดได้สั่งให้ลงโทษท่านโดยการทรมานท่านอิหม่ามด้วยการเฆี่ยนตีด้วยแซ่วันละ 10 ครั้ง จนครบ 110 ครั้ง ถึงแม้ว่าท่านอิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺถูกเฆี่ยนตีท่านก็ยังปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งดังกล่าวที่คอลีฟะฮฺได้เสนอให้ท่าน จนกระทั่งในเวลาต่อมายะซีดก็ให้ปล่อยตัวท่านให้เป็นอิสระ หลังจากนั้นไม่นานนักยะซีดมีปรารถนาให้ท่านดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในสำนักหรือในการปกครองของตนให้ได้ จึงเสนอให้ท่านรับตำแหน่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบกองทุนทรัพย์สิน แต่อบูนีฟะฮฺก็ปฏิเสธอีก และท่านเห็นว่าหากท่านดำรงชีวิตอยู่ในอิรักต่อไป ท่านคงไม่มีความปลอดภัย ท่านก็เลยตัดสินใจอพยพไปสู่นครมักกะฮฺ เพื่อทำการสอนที่นั้น วิชาที่ท่านสอนก็คือวิชาหะดีษและวิชาฟิกฮฺ โดยท่านได้ใช้เวลาในการเผยแผ่วิชาความรู้ที่นั้นเป็นเวลา 6 ปี ด้วยกัน

………เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในอิรัก อำนาจการปกครองได้เปลี่ยนจากราชวงค์อัลอุมะวีย์เป็นราชวงค์อัลอับบาซีย์ คอลีฟะฮฺองค์ใหม่ที่ขึ้นครองอำนาจคือ อบูญะฟัร อัลมันซูร คอลีฟะฮฺอบูยะฟัร ก็พยายามให้ท่านระบายความรู้สึกต่างๆ อบูฮะนีฟะฮฺ ก็ได้แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของท่านในการปกครองของคอลีฟะฮฺองค์นี้โดยท่านได้วิพากษ์วิจารณ์งานบริหารด้านต่างๆ การแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาของอบูฮะนีฟะฮฺ สร้างความไม่พอใจแก่คอลีฟะฮฺอบูญะฟัรเป็นอย่างมาก ในที่สุดคอลีฟะฮฺอบูญะฟัรก็ได้ใช้วิธีเดียวกันกับคอลีฟะฮฺในราชวงค์ก่อน โดยได้นําตัวอิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺจากนครกูฟะฮฺไปยังนครแบกแดดแล้วเสนอตำแหน่งผู้พิพากษาให้แต่ท่านปฏิเสธ ด้วยเหตุดัวกล่าว คอลีฟะฮฺอบูญะฟัรทรงสั่งให้ลงโทษอบูฮะนีฟะฮฺด้วยการคุมขังท่านไว้โดยไม่มีกำหนดจนกระทั้งสิ้นชีพ

อบูฮะนีฟะฮฺเป็นอุลามาอฺที่ปฏิบัติภักดี ( อิบาดะฮฺ ) อย่างเคร่งครัด

…อบูฮะนีฟะฮฺเป็นอุลามาอฺที่ปฏิบัติภักดี ( อิบาดะฮฺ ) อย่างเคร่งครัด และเลือกปฏิบัติในสิ่งที่มีหลักฐานที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าอิบาดะฮฺบางประเภทนั้นคนส่วนใหญ่ไม่ปฏิบัติก็ตาม เนื่องด้วยความเกรงกลัวต่อผู้นำในยุคนั้นจะลงโทษด้วยการทรมาน แต่อบูฮะนีฟะฮฺกลับปฏิบัติโดยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใดๆทั้งสิ้น ท่านใช้เวลากลางคืนในการละหมาดตะฮัจญูด และอ่านอัลกุรอานและท่านจะหลับนอนเพียงเล็กน้อย ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่าอิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺละหมาดซุบฮฺด้วยน้ำละหมาดอิซาอฺโดยที่ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องอาบน้ำละหมาดอีกครั้ง นั้นแสดงให้รู้ว่าอบูฮะนีฟะฮฺไม่ได้นอนโดยท่านใช้เวลาทั้งคืนในการทำอีบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ซุบหานาฮูวาตาอาลา

อิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺเสียชีวิต

…..ความตายเป็นสิ่งที่ทุกชีวิตจะต้องเผชิญเมื่อถึงเวลาที่อัลลอฮฺได้กำหนดไว้ก็ต้องกลับไปสู่อัลลอฮฺ ( ซ . บ. )

..อิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺเสียชีวิต เมื่อปี ฮ . ศ . 150 ท่านมีอายุ 70 ปี ผู้ที่ทำหน้าที่อาบน้ำญานาซะฮฺของท่านคือ ฮะซัน อิบนฺ อัมมาเราะฮฺและศพของท่านได้รับการฝังที่สุสาน อัลคอยซะรอนซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของนครแบกแดกประเทศอิรัก

https://www.facebook.com/Muslim-thcom-451937658696399/?modal=admin_todo_tour
Total Page Visits: 13980 - Today Page Visits: 16

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *